J.W. Marriott ผู้ก่อตั้งเชนโรงแรมใหญ่สุดในโลก ที่เริ่มจากร้านขายรูตเบียร์ /โดย ลงทุนแมน
“Marriott” เป็นเชนโรงแรมที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกและมีโรงแรมในเครือกว่า 30 แบรนด์
แต่รู้หรือไม่ว่าอาณาจักร Marriott ที่ก่อตั้งโดยคุณ J.W. Marriott ไม่ได้เริ่มต้นจากธุรกิจโรงแรม แต่เขากลับมีจุดเริ่มต้นมาจากร้านขายรูตเบียร์ A&W
จากร้านขายรูตเบียร์มาเป็นเชนโรงแรมที่ใหญ่สุดในโลก
Marriott ผ่านอะไรมาบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เชนโรงแรมขนาดใหญ่ ที่มีโรงแรมอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก จะมีชื่อที่เราคุ้นเคย เช่น Marriott, Hilton, InterContinental และ Hyatt
ซึ่ง Marriott ถือได้ว่าเป็นเชนโรงแรมที่ใหญ่สุดในโลก ทั้งในด้านมูลค่าตลาดที่มากที่สุดราว 1.46 ล้านล้านบาท รวมถึงในด้านจำนวนห้องพัก ที่ Marriott มีให้บริการราว 1.4 ล้านห้องพัก ในกว่า 130 ประเทศทั่วโลก
Marriott มีโรงแรมในเครือกว่า 30 แบรนด์ ซึ่งก็เป็นแบรนด์ดังที่คนส่วนใหญ่คุ้นหู อย่างเช่น JW Marriott, St. Regis, The Ritz-Carlton, Sheraton และ Renaissance
โดยผู้ก่อตั้งอาณาจักร Marriott คือคุณ John Willard Marriott หรือ “J.W. Marriott”
ซึ่งจริง ๆ แล้ว ธุรกิจดั้งเดิมที่เขาเริ่มต้นขึ้นไม่ใช่ธุรกิจโรงแรม
คุณ John เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1900 ที่รัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ในครอบครัวที่ทำฟาร์มแกะเล็ก ๆ ซึ่งมีฐานะค่อนข้างยากจน
เขาเริ่มค้าขายตั้งแต่อายุ 13 ปี จากการปลูกผักกาดในแปลงที่ดินที่ว่างอยู่ และเขานำเงินรายได้ที่ได้ไปให้พ่อ
จากความสำเร็จในการขายผัก พ่อของ John เลยไว้ใจให้ลูกชายพาแกะ 3,000 ตัว ขึ้นรถไฟไปขายที่เมืองซานฟรานซิสโกด้วยตัวคนเดียวในวัยเพียง 14 ปี ก่อนที่จะถูกขอให้เลิกเรียนเพื่อมาช่วยงานที่บ้านในเวลาต่อมา
เมื่อ John อายุ 19 ปี เขาก็ต้องเดินทางไปเป็นมิชชันนารีที่โบสถ์แห่งหนึ่งในนิวอิงแลนด์เป็นเวลา 2 ปี หลังจากนั้นก็เดินทางกลับมาบ้านที่เมืองยูทาห์
ระหว่างทางกลับ เขาได้แวะที่เมืองวอร์ชิงตัน ดี.ซี. และเดินผ่านร้านค้าแห่งหนึ่งซึ่งคนต่อคิวยาวมาก นี่จึงเป็นครั้งแรกที่ John ได้รับรู้ถึงความนิยมของเครื่องดื่มที่เรียกว่า “รูตเบียร์”
แต่พอกลับมาถึงบ้าน John ก็ต้องเผชิญกับข่าวร้ายเพราะว่าธุรกิจฟาร์มแกะของพ่อเขาล้มละลาย
โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากราคาแกะที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจตกต่ำ
ตั้งแต่นั้นมา John จึงตั้งเป้าว่าเขาจะต้องมีชีวิตที่ดีขึ้นและหลุดพ้นจากความยากจนนี้ให้ได้
เขาเลยตัดสินใจกลับไปเรียนต่อให้ได้วุฒิมัธยมศึกษา โดยได้รับความช่วยเหลือจากอาจารย์ที่เคยสอนเขา
ซึ่งอาจารย์ท่านนี้ ยังช่วยให้ John รับหน้าที่สอนวิชาที่เกี่ยวกับศาสนา เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเทอม
หลังจากนั้น John ก็ได้เข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยที่ยูทาห์ ซึ่งเขาต้องหาเงินมาจ่ายค่าเทอมจากทุกวิถีทาง ตั้งแต่ขายกางเกงชั้นใน ขนสัตว์ ไปจนถึงการเป็นช่างตัดไม้
จนกระทั่งในช่วงที่เรียนปีสุดท้าย แถวมหาวิทยาลัยของเขาก็มีร้านรูตเบียร์ A&W มาเปิด
ซึ่งคิวยังคงยาว เหมือนกับตอนที่เขาเห็นครั้งแรกที่เมืองวอชิงตัน ดี.ซี.
หลังจากเรียนจบในปี ค.ศ. 1926 John แต่งงานกับ Alice Sheets สาวที่เขาตกหลุมรักและคบหากันมาตั้งแต่สมัยเรียน ทั้งคู่วางแผนที่จะเริ่มทำธุรกิจด้วยกัน และสิ่งแรกที่ John นึกถึงก็คือเครื่องดื่มสุดฮิตอย่างรูตเบียร์
John ใช้เงินเก็บ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ บวกกันเงินที่กู้ยืมมาอีก 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ
คิดเป็นมูลค่าราว 83,000 บาท เพื่อขอซื้อแฟรนไชส์รูตเบียร์ของ A&W
ผ่านไป 1 ปี เขาก็ได้เปิดร้านขายรูตเบียร์เล็ก ๆ ที่เมืองวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งแน่นอนว่าขายดีแบบที่เขาคิดไว้
แต่สิ่งที่เขาลืมคิดถึงไปก็คือ รูตเบียร์ไม่ได้ขายดีทุกฤดู เพราะพอเข้าช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นช่วงที่ฝนตกบ่อย และอากาศเริ่มเย็นลง เครื่องดื่มเย็นสดชื่นอย่างรูตเบียร์กลับไม่เป็นที่ต้องการ ยอดขายของทางร้านจึงลดลงเรื่อย ๆ
Alice ภรรยาของเขาเลยเสนอไอเดียว่าควรขายอาหารด้วย เพื่อให้ยอดขายที่ร้านไม่ผันผวนตามฤดูกาลเกินไป
John เห็นด้วยทันที เขาจึงขออนุญาตทาง A&W เพื่อขอเสิร์ฟอาหารที่ร้านด้วย ส่วน Alice ก็ไปขอความช่วยเหลือจากเชฟที่สถานทูตเม็กซิโก ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับร้าน จนได้สูตรและวิธีทำอาหารเม็กซิกันมา
ทั้งคู่จึงตั้งชื่อร้านของพวกเขาใหม่ว่า “Hot Shoppes” ซึ่งเป็นร้านขายอาหารเม็กซิกัน แฮมเบอร์เกอร์ และฮอตดอก รวมถึงรูตเบียร์ของ A&W
ผ่านไปปีเดียว Hot Shoppes เปิดเพิ่มได้อีก 2 สาขา ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นร้านแบบ Drive-in หรือการขับรถไปจอดที่ลานจอดรถของร้าน แล้วสั่งอาหารมาทานบนรถ ที่กำลังได้รับความนิยมสุด ๆ ในสหรัฐอเมริกา
หลังจากนั้นไม่นาน ประเทศสหรัฐอเมริกากลับเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ แต่ John และ Alice ก็ยังพา Hot Shoppes รอดพ้นจากวิกฤติเศรษฐกิจครั้งนี้มาได้ แถมยังขยายสาขาเพิ่มมาเป็น 7 สาขาในปี ค.ศ. 1933
แต่ในปีเดียวกันนี้ John ก็ต้องเจอกับข่าวร้าย เพราะเขาตรวจพบว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ซึ่งหมอบอกว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่เกิน 2 ปี
John จึงหยุดทำงาน และใช้เวลาพักผ่อนกับครอบครัว แต่แล้วเรื่องไม่น่าเชื่อที่แม้แต่หมอก็ยังแปลกใจ เพราะอาการของเขาดีขึ้นมาก จนกลับมาใช้ชีวิตปกติได้
หลังจากรักษาตัวจนหายดีและกลับมาทำงานได้แล้ว ในปี ค.ศ. 1937 ซึ่งเป็นช่วงที่การเดินทางโดยเครื่องบินเป็นที่นิยม John สังเกตว่าลูกค้ามักซื้ออาหารแบบนำกลับบ้านที่ร้าน Hot Shoppes สาขาใกล้สนามบิน เพื่อนำไปทานบนเครื่องบิน
John เลยเกิดไอเดียว่า ให้ Hot Shoppes ทำอาหารกล่องให้กับสายการบินใช้เสิร์ฟบนเครื่องบิน ซึ่งถือเป็นเจ้าแรก ๆ ในขณะนั้น
เมื่อเขานำไอเดียนี้ไปเสนอกับทางสายการบินต่าง ๆ ก็มีสายการบิน Eastern Airlines และ American Airlines ที่ตอบตกลง
มาถึงช่วงต้นทศวรรษ 1940s ร้าน Hot Shoppes ขยายมาเป็น 24 สาขา ซึ่งช่วงนี้เองสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็เริ่มต้นขึ้น แต่ Hot Shoppes ก็ยังรอดพ้นจากวิกฤติได้อีกครั้งจากการปรับตัวไปให้บริการอาหารในฐานทัพทหารและสำนักงานรัฐบาล
จนกระทั่งช่วงทศวรรษ 1950s การเดินทางท่องเที่ยวกำลังได้รับความนิยมสูง John เลยสนใจซื้อที่ดินเปล่าที่อยู่ตรงข้ามสนามบินวอชิงตัน เพื่อสร้างโมเทลที่ชื่อว่า “Twin Bridges” ซึ่งเปิดให้บริการในปี ค.ศ. 1957 ก่อนที่ 2 ปีให้หลัง ได้สร้างโรงแรมแห่งที่ 2 ที่ชื่อ Key Bridge Motor
และในที่สุด กิจการโรงแรมของ John Willard Marriott ก็ได้เริ่มต้นขึ้น หลังจากเปิดร้านรูตเบียร์มาได้ 30 ปี
ต่อมาในปี ค.ศ. 1967 John ตั้งชื่อบริษัทของเขาใหม่ว่า “Marriott” ซึ่งใช้เรียกรวมทุกกิจการในเครือ ทั้งโรงแรมและร้านอาหาร
ในช่วงเริ่มต้นของกิจการโรงแรม ก็ได้ลูกชายคนโตของ John กับ Alice ที่ชื่อว่า “J.W. Bill Marriott Jr.” เข้ามาช่วยบริหาร
Bill เรียนด้านการเงินจากมหาวิทยาลัยยูทาห์ โดยภายใต้การบริหารของเขา บริษัทสามารถทำกำไรได้มากขึ้นอย่างชัดเจน จน Bill กลายมาเป็นบุคคลสำคัญที่ได้วางรากฐานธุรกิจและขยายอาณาจักร Marriott
ด้วยผลงานที่โดดเด่นของ Bill จึงทำให้เขาได้รับเลือกเป็นประธานบริษัทในปี ค.ศ. 1964 ก่อนที่จะได้รับเลือกเป็น CEO ในอีก 8 ปีต่อมา
Bill เน้นขยายโรงแรมใกล้สนามบิน และโรงแรมเพื่อการประชุมหรือ Convention โดยสร้างจุดเด่นให้กับโรงแรมของ Marriott ที่มีทั้งห้องจัดประชุมสัมมนา ภัตตาคาร ไปจนถึงลานสเกตน้ำแข็ง
นอกจากนี้ Bill ยังเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ จากการเป็นเจ้าของโรงแรมเอง สู่การรับบริหารโรงแรม และระบบแฟรนไชส์
นั่นจึงทำให้ในปี ค.ศ. 1993 บริษัท Marriott แบ่งการบริหารจัดการออกเป็น 2 บริษัท
บริษัทแรกชื่อ Marriott International ที่จัดการในส่วนของธุรกิจรับบริหารโรงแรมและระบบแฟรนไชส์ ซึ่งดูแลโดยลูกชายคนโต นั่นก็คือ Bill
บริษัทที่สองชื่อ Host Hotels and Resorts ที่จัดการในส่วนของธุรกิจโรงแรมที่ Marriott เป็นเจ้าของเอง ซึ่งดูแลโดยน้องชายของ Bill ที่ชื่อ Richard
อีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ที่ช่วยเร่งขยายฐานลูกค้าให้ Marriott ก็คือการเป็นบริษัทโรงแรมแรกของโลก ที่ให้บริการระบบจองที่พักแบบออนไลน์ ในปี ค.ศ. 1995
และกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ Marriott ขยายอาณาจักรโรงแรมได้อย่างรวดเร็วก็คือ “การควบรวมกิจการ”
ปี ค.ศ. 1995 Marriott เริ่มซื้อกิจการครั้งแรก ด้วยการเข้าไปถือหุ้น 49% ในโรงแรม Ritz-Carlton ก่อนที่อีกไม่กี่ปีต่อมาจะเข้าซื้อทั้งกิจการ
แต่การซื้อกิจการที่สำคัญที่สุด เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2016 ภายใต้การนำของ CEO ที่เป็นคนนอกตระกูลคนแรกอย่าง Arne Sorenson
Marriott ได้เข้าซื้อกิจการ Starwood Hotels and Resorts ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์โรงแรมดังมากมาย อย่างเช่น Sheraton, W Hotels และ St. Regis
และในตอนนี้เองที่ Marriott ได้ก้าวขึ้นมาเป็นเชนโรงแรมที่ใหญ่สุดในโลก
น่าเสียดายที่ John เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี ค.ศ. 1985 เขาจึงไม่มีโอกาสได้เห็นความยิ่งใหญ่ของอาณาจักร Marriott ในปัจจุบัน ที่เขาเป็นผู้ริเริ่ม
แต่สิ่งสำคัญที่ตกทอดมาจาก John จนกลายเป็นหนึ่งในดีเอ็นเอของ Marriott ก็คือวัฒนธรรมองค์กร
เพราะ John ให้ความสำคัญกับพนักงานทุกคนและดูแลพนักงานเหมือนคนในครอบครัว มาตั้งแต่ช่วงแรกที่เริ่มทำธุรกิจ
เหมือนกับหนึ่งในคำพูดอมตะของเขาที่ว่า
“Take care of associates, and they’ll take care of your customers”
หรือ ดูแลพนักงานของคุณให้ดี แล้วพนักงานเหล่านั้นจะดูแลลูกค้าของคุณต่อเอง
นั่นจึงทำให้ Marriott ไม่ได้เป็นเพียงหนึ่งในโรงแรมที่น่าเข้าพักมากที่สุดเท่านั้น
แต่ในมุมของสถานที่ทำงาน Marriott ยังติดอันดับโลกในด้านบริษัทที่น่าทำงานด้วยมากที่สุดเช่นกัน..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.cnbc.com/2021/08/10/how-marriott-became-the-worlds-biggest-hotel-chain.html
-https://www.washingtonpost.com/archive/politics/1985/08/14/hotel-magnate-jw-marriott-dies-at-age-84/d8cfeda2-6a83-40fc-8126-310233d114f0/
-https://www.entrepreneur.com/article/197668
-https://edition.cnn.com/2012/04/12/business/marriott-hotel-industry/index.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/Marriott_International
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_chained-brand_hotels
-https://companiesmarketcap.com/hotels/largest-hotel-companies-by-market-cap/
-https://careers.marriott.com/20-years-fortune-100-list/
-https://www.marriott.com/culture-and-values/j-willard-marriott.mi
同時也有21部Youtube影片,追蹤數超過19萬的網紅Mateusz Urbanowicz,也在其Youtube影片中提到,I try to imagine and paint cute Japanese stores as a part of this year's goal to learn how to create things not based on direct references. * Here is...
「a list of references」的推薦目錄:
- 關於a list of references 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於a list of references 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於a list of references 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於a list of references 在 Mateusz Urbanowicz Youtube 的精選貼文
- 關於a list of references 在 Mateusz Urbanowicz Youtube 的精選貼文
- 關於a list of references 在 Mateusz Urbanowicz Youtube 的最佳解答
a list of references 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
Tokyo Olympics เรื่องที่ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ของญี่ปุ่น /โดย ลงทุนแมน
ตามกำหนดการเดิม Tokyo 2020 Olympic Games
ต้องถูกจัดขึ้นในเดือนกรกฎาคม ปี 2020 ที่ผ่านมา
แต่เนื่องจากการระบาดของโควิด 19 ที่รุนแรง
จึงทำให้มหกรรมกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้ ถูกเลื่อนมาจัดในเดือนกรกฎาคม ปี 2021 แทน
ทำให้เริ่มเกิดคำถามขึ้นมากมายแม้กระทั่งจากชาวญี่ปุ่นเอง
ว่าโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ ควรจะยังต้องจัดขึ้นหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ในส่วนรัฐบาลญี่ปุ่น
ยังยืนยันหนักแน่นว่าจะเดินหน้าจัดการแข่งขันตามเดิม
ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด 19 จะยังคงมีอยู่
เรื่องนี้จะส่งผลต่อญี่ปุ่นมากแค่ไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ในปี 2013 คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC)
ซึ่งเป็นกลุ่มคนผู้มีอำนาจสูงสุดในการพิจารณาให้สิทธิ์เจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ได้พิจารณาเลือกเมืองที่เสนอตัวเพื่อเป็นเจ้าภาพจำนวน 3 แห่ง ซึ่งประกอบด้วย
- อิสตันบูล (Istanbul) เมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของตุรกี
- มาดริด (Madrid) เมืองหลวงของสเปน
- โตเกียว (Tokyo) เมืองหลวงของญี่ปุ่น
สุดท้าย มติที่ประชุมก็เลือก “โตเกียว” ให้เป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกประจำปี 2020
สำหรับญี่ปุ่น การถูกรับเลือกให้เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปี 2020 นั้น ถือเป็นครั้งที่ 4 (รวมทั้งโอลิมปิกฤดูร้อนและฤดูหนาว) หลังจากที่เคยจัดมาแล้วในปี 1964, 1972 และ 1998
ในส่วนของรัฐบาลญี่ปุ่นนั้นเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า
การที่ประเทศได้รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกในปี 2020
จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นทั้งทางตรงและทางอ้อม
ทางตรงคือมีแฟนกีฬาจากทั่วโลกเดินทางมายังญี่ปุ่น
ทางอ้อมคือได้เผยแพร่วัฒนธรรมญี่ปุ่น ทำให้สินค้าและบริการจากญี่ปุ่นเป็นที่รู้จักไปในตัว
โดยที่การเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกนั้น
ถือเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของอดีตนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ
หรือ “Abenomics” เพื่อช่วยทำให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวจากความซบเซา
โดยเฉพาะหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในปี 2011 ที่สร้างความบอบช้ำต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่นอย่างหนัก
รัฐบาลและนักเศรษฐศาสตร์ของญี่ปุ่น คาดการณ์กันในเบื้องต้นว่า การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก จะช่วยให้เกิดเงินสะพัดมหาศาลในภาคเศรษฐกิจต่าง ๆ เช่น
- 1,100,000 ล้านบาท ในภาคการก่อสร้างและการลงทุนที่เกี่ยวกับการเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิก
- 202,000 ล้านบาท ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมโฆษณา
- 89,000 ล้านบาท จากภาคพาณิชย์และการค้าต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดของโควิด 19 ในช่วงต้นปี 2020 ค่อย ๆ สร้างความกังวลให้แก่หลายประเทศ ที่จะเดินทางมาแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ญี่ปุ่น
บางประเทศอย่างเช่น ออสเตรเลียและแคนาดา เป็นชาติแรก ๆ ที่ประกาศไม่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันเพราะกังวลเกี่ยวกับการระบาดของโควิด 19
ในขณะเดียวกัน คนญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อย กังวลกับการแพร่ระบาดของโควิด 19 เนื่องจากมหกรรมกีฬาระดับนี้ ไม่ได้มีแค่นักกีฬาและทีมงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น
แต่ยังหมายถึงกองเชียร์และนักท่องเที่ยวจำนวนมากจากทั่วโลก จะต้องเดินทางมาญี่ปุ่น
หลายฝ่ายถึงกับออกมาเตือนว่า Tokyo Olympics อาจกลายเป็นแหล่งในการแพร่เชื้อของโควิด 19 ในวงกว้างหรือ Super-spreader ซึ่งจะทำให้คนญี่ปุ่นในประเทศจำนวนมากได้รับเชื้อไปด้วย
ซึ่งสุดท้ายทั้งรัฐบาลญี่ปุ่นและคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ได้ยืนยันที่จะเดินหน้าจัดโตเกียวโอลิมปิก ต่อไปในปี 2021 แม้ความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของโควิด 19 จะยังคงอยู่
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัย Kansas ระบุว่า
การเลื่อนจัดการแข่งขัน 1 ปี มีต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 180,000 ล้านบาท
ขณะที่การยกเลิกการแข่งขันทั้งหมด
จะสร้างความเสียหายให้แก่ญี่ปุ่นประมาณ 1,300,000 ล้านบาท
แม้ว่าผู้จัดการแข่งขันจะมีมาตรการมาแก้ปัญหานี้
โดยการไม่อนุญาตให้กองเชียร์ต่างชาติเข้าชมการแข่งขันโอลิมปิกในครั้งนี้
แต่ก็ยังคงมีชาวญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยออกมาต่อต้านอยู่ดี
รวมไปถึงนักเศรษฐศาสตร์หลายคนได้ออกมาเตือนญี่ปุ่นว่า
หากมีการแพร่ระบาดของโควิด 19 จากการจัดการแข่งขัน เรื่องนี้จะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น จนผลประโยชน์ที่ได้ อาจไม่คุ้มเสีย
ปัจจุบัน ญี่ปุ่นมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด 19 สะสมมากกว่า 780,000 ราย เสียชีวิตไปแล้วกว่า 14,200 ราย
โดยเฉพาะโตเกียวนั้น ถือเป็นเมืองที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 มากที่สุดในญี่ปุ่น
ซึ่งปัจจุบัน มีผู้ป่วยมากกว่า 166,000 ราย หรือมากกว่า 1 ใน 5 ของจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศ
ที่ลืมไม่ได้คือ ประชากรกว่า 28% หรือ 35 ล้านคน ของญี่ปุ่น
เป็นผู้ที่มีอายุเกิน 65 ปี ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิต หากติดเชื้อ
ขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ของญี่ปุ่น
ก็ถือเป็นอีกความท้าทายที่รัฐบาลกำลังเจอ
เพราะปัจจุบัน (17 มิ.ย. 64) ประชากรญี่ปุ่นมีอัตราการได้รับวัคซีนครบแล้ว เพียงแค่ 6%
และยังตามหลังประเทศพัฒนาแล้ว อย่างสหราชอาณาจักร ที่มีอัตราผู้ฉีดวัคซีนสมบูรณ์แล้ว 45.7%, สหรัฐอเมริกา 44.6% และเยอรมนี 28.8%
แน่นอนว่า การฟื้นฟูเศรษฐกิจจากวิกฤติโควิด 19 ก็สำคัญ
ซึ่งทางฝั่งรัฐบาลและหลายฝ่ายก็หวังว่า
มหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ จะมาช่วยได้ไม่มากก็น้อย
ขณะที่การป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจายไปมากกว่านี้ก็สำคัญเช่นกัน และก็มีหลายฝ่ายที่ไม่อยากให้มหกรรมกีฬา หรือมหกรรมอะไรก็ตาม มาจัดขึ้นในช่วงนี้ทั้งนั้น
ก็ต้องติดตามกันว่า สถานการณ์แบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญอยู่มากว่า 1 ปี ท้ายที่สุดแล้ว จุดจบจะเป็นอย่างไร..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ตลอดระยะเวลา 125 ปี ตั้งแต่มีการจัดการแข่งขันโอลิมปิกมา
การแข่งขันโอลิมปิกถูก “ยกเลิก” ทั้งหมด 3 ครั้ง คือ ในปี 1916, 1940, 1944 เนื่องจากเหตุผลเรื่องสงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2
ส่วนโตเกียวโอลิมปิก 2020 ถือเป็นครั้งแรก ในประวัติศาสตร์ของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่มีการ “เลื่อน” จัดการแข่งขัน
แต่ก็ไม่แน่ว่าการแข่งขันในปี 2021 จะถูกจัดขึ้นได้สำเร็จ หรือต้องถูกยกเลิกเป็นครั้งที่ 4..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://en.wikipedia.org/wiki/2020_Summer_Olympics
-https://www.forbes.com/sites/stephenharner/2013/09/10/the-2020-olympics-a-fourth-arrow-for-abenomics-and-second-term-for-abe/?sh=30c38c401157
-https://www.ctvnews.ca/sports/2020-olympics-chance-for-japan-to-revive-stagnant-economy-1.1445189
-https://www.topendsports.com/events/summer/hosts/list-countries.htm
-https://www.topendsports.com/events/summer/hosts/list-countries.htm
-https://www.nippon.com/en/japan-data/h00657/
-https://www.bbc.com/news/world-asia-57097853
-https://en.wikipedia.org/wiki/COVID-19_pandemic_in_Japan
-https://www.statista.com/statistics/1149301/japan-share-of-population-aged-65-and-above/
-https://www.history.com/news/olympics-postponed-cancelled
a list of references 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
[BREAKING] Grab กำลังจะเข้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดันมูลค่าบริษัท 1 ล้านล้าน
เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา มีรายงานว่า Grab Holdings กำลังจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยมีมูลค่าคาดการณ์อยู่ที่ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.1 ล้านล้านบาท และน่าจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ (ในรายงานระบุว่าอาจเกิดขึ้นเร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้)
สำหรับการเข้าตลาดหุ้นของ Grab Holdings จะเข้าด้วยวิธี Special Purpose Acquisition Companies
เรียกสั้น ๆ ว่า SPAC ซึ่งเป็นวิธีเข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผ่านการควบรวมกับบริษัทอื่น อย่างเช่นในกรณีของ Grab Holdings จะเข้าผ่านบริษัทที่ชื่อว่า “Altimeter Capital”
╔═══════════╗
สำรองที่ https://forms.gle/rmMBtBTKaLtgYTcj9 หรือ https://brightoncollege.ac.th/
╚═══════════╝
ดีลดังกล่าว ถือเป็นหนึ่งในดีล SPAC ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งผู้ที่ได้ประโยชน์ในเรื่องนี้นอกจากจะเป็น Grab Holdings เองแล้ว ยังทำให้ผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง SoftBank มีทรัพย์สินจากการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณเช่นกัน
ทั้งนี้ มีรายงานว่า Grab Holdings มีรายได้ในปี 2020 เติบโตขึ้น 70% เมื่อเทียบกับปี 2019
ถึงแม้บริษัทยังคงขาดทุนอยู่ แต่ก็ได้รายงานว่า “ธุรกิจเรียกรถ” ได้ทำ Break Even หรือสร้างรายได้มากกว่าค่าใช้จ่ายในทุกประเทศที่เข้าไปทำธุรกิจแล้ว
หรือพูดง่าย ๆ ว่า ทุก ๆ ครั้งที่เรียกรถ Grab เพื่อเดินทาง Grab จะไม่ขาดทุนแล้ว
นอกจากนี้ ประธานบริษัท Grab Holdings ก็ยังได้ระบุว่าบริษัทกำลังอยู่ในช่วงลดค่าใช้จ่าย
โดยในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา สามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้มากถึง 80%
ซึ่งก็ถือเป็นกระบวนการที่จะทำให้บริษัทพลิกกลับมาทำกำไรได้ในอนาคต
การเข้าตลาดหลักทรัพย์ของ Grab Holdings ก็ถือเป็นหนึ่งในความเคลื่อนไหวที่น่าติดตาม
เพราะบริษัทแห่งนี้ ถือเป็นยูนิคอร์นของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีฐานประชากรมากถึง 655 ล้านคน
น่าคิดเหมือนกันว่า Grab Holdings
บริษัทที่เพิ่งถูกก่อตั้งขึ้นมาในปี 2012 หรือเพียง 9 ปีก่อน
และเพิ่งมีธุรกิจส่งอาหาร ปี 2018 หรือเมื่อ 3 ปีก่อน
ตอนนี้บริษัทกำลังจะมีมูลค่าบริษัท 1.1 ล้านล้านบาท
ซึ่งถ้าบริษัทนี้มาจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ก็จะเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่ามากสุดเลยทีเดียว
นั่นหมายความว่าถ้าเรื่องนี้เป็นจริง
ในเร็ว ๆ นี้ เราจะสามารถร่วมเป็นเจ้าของธุรกิจ Grab ได้โดยผ่านการซื้อหุ้น Grab ที่สหรัฐอเมริกา
ปิดท้ายด้วยคำถามที่น่าสนใจ
บริษัท Grab จะมีมูลค่าที่พอ ๆ กับ ปตท. และใหญ่เกือบ 2 เท่าของ CPALL
ถ้าให้เราเลือกระหว่างลงทุนในบริษัทมูลค่า 1 ล้านล้าน ที่ชื่อว่า Grab หรือ ปตท.
เป็นเรา เราจะเลือกลงทุนในบริษัทไหนดี ?
╔═══════════╗
A Culture of Curiosity, Confidence and Kindness สำหรับนักเรียนอายุ 2 - 18 ปี วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม 2564 เวลา 8.45 - 11.00 น. สำรองที่ https://forms.gle/rmMBtBTKaLtgYTcj9 หรือ https://brightoncollege.ac.th/
╚═══════════╝
References
-https://seekingalpha.com/news/3679710-grab-to-list-in-us-via-altimeter-spac-at-35b-valuation-ft
-https://www.ft.com/content/73d8b26c-3d61-48ec-8027-25c4cd625488
a list of references 在 Mateusz Urbanowicz Youtube 的精選貼文
I try to imagine and paint cute Japanese stores as a part of this year's goal to learn how to create things not based on direct references.
* Here is the prints shop link:
https://www.inprnt.com/gallery/mattjabbar/
* I'm also making these based on your prompts. To see the list of ideas already submitted go here:
https://www.evernote.com/shard/s62/sh/a62bd816-2e47-4add-0d4e-1db7ac31d6b6/5a029ccfcf83a3f588fad4c641a0ac51
* All illustrations from this series done so far are on my website, here:
https://mateuszurbanowicz.com/works/newmisegamae/
Tools:
- BiC Evolution HB pencil
- Blackwing Natural pencil
- Mijello watercolors
- IndiGraph fountain pen
- Dark gray waterproof ink by Kakimori
- Waterford White - hot press watercolor paper
Feel free to check out my other stuff:
Gumroad: https://gumroad.com/mateusz_urbanowicz
Patreon: https://www.patreon.com/mateuszurbanowicz
Website: http://mateuszurbanowicz.com
Blog: http://mattjabbar.tumblr.com
Twitter: https://twitter.com/gommatt
Instagram: https://www.instagram.com/mateusz_urbanowicz
a list of references 在 Mateusz Urbanowicz Youtube 的精選貼文
I try to imagine and paint cute Japanese stores as a part of this year's goal to learn how to create things not based on direct references.
* Here is the prints shop link:
https://www.inprnt.com/gallery/mattjabbar/
* I'm also making these based on your prompts. To see the list of ideas already submitted go here:
https://www.evernote.com/shard/s62/sh/a62bd816-2e47-4add-0d4e-1db7ac31d6b6/5a029ccfcf83a3f588fad4c641a0ac51
* All illustrations from this series done so far are on my website, here:
https://mateuszurbanowicz.com/works/newmisegamae/
Tools:
- BiC Evolution HB pencil
- Blackwing Natural pencil
- Mijello watercolors
- IndiGraph fountain pen
- Dark gray waterproof ink by Kakimori
- Waterford White - hot press watercolor paper
Feel free to check out my other stuff:
Gumroad: https://gumroad.com/mateusz_urbanowicz
Patreon: https://www.patreon.com/mateuszurbanowicz
Website: http://mateuszurbanowicz.com
Blog: http://mattjabbar.tumblr.com
Twitter: https://twitter.com/gommatt
Instagram: https://www.instagram.com/mateusz_urbanowicz
a list of references 在 Mateusz Urbanowicz Youtube 的最佳解答
A new project comes! I try to imagine and paint cute Japanese stores as a part of this year's goal to learn how to create things not based on direct references.
* Here is the prints shop link:
https://www.inprnt.com/gallery/mattjabbar/
* I'm also making these based on your prompts. To see the list of ideas already submitted go here:
https://www.evernote.com/shard/s62/sh/a62bd816-2e47-4add-0d4e-1db7ac31d6b6/5a029ccfcf83a3f588fad4c641a0ac51
* Tell me in the comments if you have any other store types you would like me to paint!
* All illustrations from this series done so far are on my website, here:
https://mateuszurbanowicz.com/works/newmisegamae/
Tools:
- BiC Evolution HB pencil
- Blackwing Natural pencil
- Mijello watercolors
- IndiGraph fountain pen
- Dark gray waterproof ink by Kakimori
- Waterford White - hot press watercolor paper
Feel free to check out my other stuff:
Gumroad: https://gumroad.com/mateusz_urbanowicz
Patreon: https://www.patreon.com/mateuszurbanowicz
Website: http://mateuszurbanowicz.com
Blog: http://mattjabbar.tumblr.com
Twitter: https://twitter.com/gommatt
Instagram: https://www.instagram.com/mateusz_urbanowicz
a list of references 在 How To List References on a Resume (With Examples) - Indeed 的相關結果
A resume reference list is a document that provides contact and background information on professional references. ... <看更多>
a list of references 在 How to List References on a Resume (Dos and Don'ts) - The ... 的相關結果
Should you list references on your resume? Try our reference sheet ... The Right Way to Submit References During Your Job Search (Template Included) ... ... <看更多>
a list of references 在 Sample Reference List for Employment - The Balance Careers 的相關結果
Here are tips for creating a reference list, along with a sample reference page. ... Include the reference's full contact information. List their ... ... <看更多>